7 วิธี ประหยัดน้ำมันได้ผลจริง

1651

ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสิ่งที่เป็นภาระให้กับผู้ขับขี่รถยนต์ไม่มากก็น้อย ถ้ามีทางเลือกหรือ “เทคนิคในการประหยัดน้ำมัน” แล้วก็เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง ประโยชน์ทางตรงก็คือประหยัดค่าใช้จ่าย ประโยชน์ทางอ้อมคือใช้พลังงานของโลกให้น้อยลง ถ้าทุกคนช่วยกันประหยัดก็เป็นการอนุรักษ์พลังงานได้อีกทางหนึ่ง วิธีการประหยัดน้ำมันนั้นไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำ บทความนี้มีเทคนิคง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ ดังนี้

นำสิ่งของและสัมภาระที่ไม่จำเป็นออกจากตัวรถ
ลองสำรวจสิ่งของต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็น เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า เอกสารกระดาษต่าง ๆ หรืออุปกรณ์กระป๋องน้ำมันเครื่องเก่าที่หมดสภาพแล้ว หลาย ๆ คนใช้รถเป็นที่เก็บของเคลื่อนที่ไปไหนก็พกไปด้วย กลายเป็นตัวถ่วงน้ำหนักกินพลังงานน้ำมันโดยไม่จำเป็น

หมั่นเช็คความดันลมยางอยู่เสมอ
ลมยางอ่อนไปหรือแข็งไปล้วนมีผลต่อการขับขี่และอายุการใช้งานของยาง ยิ่งลมยางที่อ่อนยิ่งทำให้รถยนต์เคลื่อนตัวอืดอาดและใช้พลังงานสูง การเลือกใช้ขนาดหน้ายางก็เช่นกัน ถ้ายิ่งมีหน้าสัมผัสกว้างกว่าก็กินน้ำมันมากกว่า วิธีที่ถูกต้องคือการเลือกใช้ขนาดยางและเติมลมยางให้ได้ความดันตามที่กำหนด ในคู่มือรถยนต์ และคอยตรวจสอบอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้รถยนต์มีประสิทธิภาพสูงสุดตามการคำนวณของวิศวกรผู้ออกแบบ

ขับรถในความเร็วที่เหมาะสม
การออกตัวแรงหรือเร่งความเร็วให้สูงในเวลาสั้น ๆ นั้นอาจจะได้ความสะใจและตื่นเต้น แต่หารู้ไม่ว่าเป็นการผลาญน้ำมันให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ การใช้ความเร็วประมาณ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งเป็นความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดนั้นเป็นความเร็วที่ เพียงพอในการเดินทางและประหยัดน้ำมันได้ดี อีกทั้งยังปลอดภัยกว่าในการควบคุมรถด้วย

คำนวณสภาพการจราจรล่วงหน้า
หลาย ๆ คนยังเร่งความเร็วแม้รู้ว่าอีกไม่ถึงร้อยเมตรก็จะต้องเลี้ยวหรือเข้าเลนรอยู เทิร์น การใช้ความเร็วทั้ง ๆ ที่รู้ว่าสภาพการจราจรข้างหน้าเป็นไฟแดงหรือรถเริ่มติดสะสมนั้นเป็นการขับ ขี่แบบไม่ประเมินสภาพการจราจรล่วงหน้า คิดแต่ว่าแค่เบรกให้ทันก็พอแล้ว ผู้ขับขี่ที่ชำนาญจะสามารถคำนวณสถานการณ์แล้วใช้ความเร็วให้พอดี กะระยะเบรกอย่างเหมาะสมจึงทำให้ประหยัดน้ำมันได้มากกว่า

บันทึกอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเพื่อเปรียบเทียบ
การใช้รถยนต์ควรจะรู้ว่าเครื่องยนต์กินน้ำมันมากน้อยเท่าไหร่ โดยคำนวณเป็นระยะทางต่อลิตร เนื่องจากการขับรถในเมืองจะกินน้ำมันมากกว่าการขับทางไกล ดังนั้นควรบันทึกสถานการณ์ที่แตกต่างไว้ด้วยเพื่อกันลืม หลังจากนั้นจึงนำมาเปรียบเทียบในสถานการณ์ใกล้เคียงกัน เมื่อใดที่อัตรากินน้ำมันสูงมากขึ้น อาจจะต้องปรึกษาศูนย์หรืออู่เพื่อหาสาเหตุ ถ้าไม่ได้มาจากระบบเครื่องยนต์ ก็มาจากพฤติกรรมการใช้รถยนต์

ถ้าคาดว่าจะต้องจอดรถนาน ให้ดับเครื่องยนต์
มีผู้ใช้รถจำนวนมากที่ไม่อยากลงจากรถขณะรอรับลูกเลิกจากโรงเรียนหรือมี สมาชิกครอบครัวลงไปซื้อของในห้างค้าปลีกเป็นระยะเวลานาน ๆ โดยติดเครื่องไว้ เปิดแอร์แล้วนั่งฟังเพลงในรถยนต์ ซึ่งอาจจะไม่กระทบภาระค่าใช้จ่ายส่วนตัว แต่การติดเครื่องแบบนี้ทำให้สูญเสียพลังงานน้ำมันอย่างไม่คุ้มค่า และสร้างมลภาวะให้กับประชาชนที่อยู่ละแวกนั้นด้วย ผู้ขับขี่ควรจะดับเครื่องแล้วลงไปยืดเส้นยืดสายในห้างจะเหมาะสมกว่า เป็นการผ่อนคลายจากการขับรถไปในตัว

อย่าเพิ่มส่วนประกอบแต่งรถที่ไม่จำเป็น
การติดตั้งส่วนประกอบเพิ่มที่นอกเหนือจากการออกแบบของโรงงานผู้ผลิตทำให้ หลักการแอโรไดนามิกผิดเพี้ยนไปจากที่มีการทดสอบในอุโมงค์ลม ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรเสริมหรือดัดแปลง เช่น การติดตั้งแร็คมือจับหรือแร็คสำหรับยึดสัมภาระบริเวณหลังคารถยนต์ หรือบางคนนิยมเอาชิ้นโฟมรูปไขลานมาประดับรถยนต์ที่อาจจะร่วงหล่นก่อปัญหา จราจรและอันตรายต่อผู้อื่นแล้ว ยังเป็นตัวเสียดทานแรงลมทำให้รถยนต์หน่วงและเปลืองน้ำมันได้

มีคำกล่าวที่ว่าประหยัดได้ 1 ดอลล่าร์ ก็เหมือนกับการหาเงินได้ 1 ดอลล่าร์ ดังนั้นอย่ามองว่าการประหยัดได้เพียงเล็กน้อยนั้นไม่มีผล เพราะเมื่อรวมกันเป็นเดือนเป็นปีแล้ว ก็มีมูลค่าจำนวนหนึ่งที่คาดไม่ถึง การใส่ใจรถยนต์และใช้งานอย่างถูกวิธี นอกจากช่วยประหยัดน้ำมันแล้ว ยังทำให้รถยนต์มีความทนทานใช้งานได้ยาวนานกว่า ประหยัดค่าซ่อมบำรุงโดยรวมได้อีกทางหนึ่งด้วย

บทความโดย ทีมงานไทยกระบะ

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here